"แกงไตปลา" ทำมาจากไตปลาจริงหรือ?

18 November 2017 14590

            หลายๆคนคงเคยได้ยินเมนู "แกงไตปลา" กันมาบ้าง เพราะเมนูนี้เป็นอาหารยอดฮิต ติดอันดับต้นๆของคนใต้เลยก็ว่าได้ ซึ่งคนใต้เขาจะเรียกกันว่า “แกงพุงปลา” 

แกงไตปลาคืออะไร และทำมาจากไตปลาจริงหรือ?

           แกงไตปลา เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองชนิดหนึ่ง โดยใช้กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆมาหมักกับเกลือ โดยนำขี้และดีออกจากกระเพาะก่อน หมักไว้ 10 -30 วันก็ใช้ได้ ไตปลาที่หมักได้ที่จะเหลวและมีมันไหลออกมา นำไปทำเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มคล้ายน้ำพริกของทางภาคกลาง หรือแกงพุงปลาที่เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพัทลุงนอกจากนั้น ยังนำไตปลาไปผัดกับน้ำพริกแกง ใส่ปลาจิ้งจ้างและผัก เรียกไตปลาแห้ง

            ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มนี้เป็นที่มาของอาหารชาววังที่เรียกว่า “แสร้งว่า” หรือ “แสร้งว่าไตปลา” ซึ่งเป็นการปรุงแบบเดียวกับน้ำพริกไตปลาเพียงแต่ตัดไตปลาที่มีกลิ่นเหม็นคาวออกไป ใส่เครื่องปรุงอื่นลงไปแทน เช่น กุ้ง แสร้งว่านี้ เป็นอาหารที่มีในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานของรัชกาลที่ 2

        แกงไตปลา หรือแกงพุงปลาเป็นแกงที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ มีทั้งแบบที่ใสและไม่ใส่กะทิ แบบใส่กะทิเป็นที่นิยมในบางท้องที่ เช่น จังหวัดยะลา การแกงจะต้มกะทิแค่พอสุก ไม่แตกมัน น้ำพริกแกงประกอบด้วย พริกขี้หนูแห้ง เกลือ พริกไทยเม็ด ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม ขมิ้น หอมแดง กะปิ แกงไตปลาแบบชุมพรจะไม่ใส่ข่า กระชาย หอมแดง กระเทียมในน้ำพริกแกง แต่จะซอยละเอียดใส่ลงในแกง เรียกแกงแบบนี้ว่าแกงไตปลาเครื่องซอย

       ทีนี้เราก็หายสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่า ไตปลา นั้นจริงๆทำมาจากอะไร แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ไตของปลาแน่นอน มันคือพุงของปลานั่นเองล่ะค่ะ 

ไตปลาอบแห้ง ตราวศินี !

            จากเมนูยอดฮิตของคนใต้ น้ำพริกวศินีได้นำมารังสรรค์ความหรอยจังฮู้!!! กับ สูตร "ไตปลาอบแห้ง" ที่ไม่เหมือนใคร ทำจากไตปลาทู ผสมผสานกับสมุนไพรไทย และเครื่องแกงใต้เพื่อเพิ่มความหอม อร่อยให้กับไตปลา นอกจากนี้ยังผสมกับปลาจิ้งจั้ง หรือปลากะตักป่น เพิ่มความกรอบอร่อย นำส่วนผสมทุกอย่างผ่านการอบแห้ง เพิ่มอายุการเก็บอาหารให้ยาวนานขึ้น โดยไม่ใส่วัตถุกันเสีย เก็บได้ยาวนานถึง 6 เดือน บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่พกพาสะดวก ให้คุณนำติดตัวไปได้ทุกที่ ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวน สามารถออกแบบเมนูความอร่อยแบบง่ายๆได้ทุกวันกับน้ำพริกวศินี 


ที่มา: วิกิพิเดีย

                

UA-109224408-1